ในการถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เชื่อว่าทุกคนมีความคาดหวังและต้องการเห็นทรัพย์สินที่ถือครองอยู่มีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปถึงแม้จะมีสินทรัพย์บางประเภทที่ยิ่งถือไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งมีค่าเพิ่มมากขึ้น ในแง่ของการลงทุนต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆที่มีผลทำให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์มีความเปลี่ยนแปลงประกอบด้วย
ปัจจัยที่มีผลทำให้อสังหาริมทรัพย์มีค่าสูงขึ้นหรือต่ำลง
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ภาวการณ์ขึ้นลงของอสังหาริมทรัพย์ มีผลกระทบต่อการลงทุนทั้งสิ้น แม้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ เมื่อถือครองไปนานๆมูลค่าจะเพิ่มมากขึ้นก็จริง แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้น เกิดขึ้นมากน้อยไม่เท่ากันในแต่ละทำเล ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1.เงินเฟ้อ (Inflation)
ในแง่ของการลงทุน เงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลทั้งในแง่ดีและแง่ร้ายต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองอยู่ ในยามที่ภาวะเงินเฟ้อสูงอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ได้รับผลดี ก็คืออสังหาริมทรัพย์เก่าเพราะเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนสิ่งปลูกสร้างใหม่ขยับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะดึงให้สิ่งปลูกสร้างเก่าที่ถือครองไว้มีราคาขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ส่วนอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่จะได้รับผลเสียจากภาวะเงินเฟ้อ คืออสังหาริมทรัพย์ที่ติดสัญญาเช่าระยะยาว เนื่องจากในช่วงเงินเฟ้อสูงๆ ค่าเช่าจะขยับตัวสูงขึ้น แต่การมีสัญญายาวๆทำให้เก็บค่าเช่าได้คงที่ วิธีป้องกันได้ดีที่สุดก็คือต้องทำสัญญาเช่าในช่วงสั้นๆ
2.เพื่อนบ้านใกล้เคียง (Neighborhoods)
ปัจจัยสำคัญที่คนมักมองข้ามเสมอก็คือเพื่อนบ้านใกล้เคียง การมีเพื่อนบ้านที่ดีจะทำให้สังคมในชุมชนดีตามไปด้วย ทำให้มีคนสนใจเข้ามาอยู่อาศัยในบริเวณนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งค่าเช่าและมูลค่าบ้านก็จะสูงขึ้นเช่นกัน ในทางกลับกันการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในชุมชนที่ไม่มีการดูแลรักษา ไม่มีการจัดการชุมชนที่ดี สภาพแวดล้อมเหล่านั้นจะส่งผลให้ความน่าอยู่ลดน้อยลง ปัจจัยในข้อนี้จึงเป็นเรื่องที่นักลงทุนควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ
3.การรีบร้อนหรือเร่งขาย (Urgency to Sell)
อสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องค่อนข้างต่ำ ซึ่งการขายให้ได้ราคาหรือเกิดมูลค่าสูงสุดจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลา และต้องถือครองไว้นานเพื่อรอโอกาส ด้วยเหตุนี้การรีบเร่งขายจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลงได้
4.การปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ (Capital Improvement)
อสังหาริมทรัพย์ทุกแห่งต้องมีการดูแลซ่อมแซมและปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อรักษาสภาพให้พร้อมใช้ประโยชน์ และเพื่อรักษามูลค่าให้คงอยู่ การปรับปรุงจะส่งผลให้สามารถเก็บค่าเช่าได้มากขึ้น มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ก็จะเพิ่มขึ้น ในอีกด้านหนึ่งการละเลยไม่ปรับปรุงดูแล ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดต่ำลงได้
ในทางปฏิบัติ มูลค่าความเปลี่ยนแปลงของราคาอสังหาริมทรัพย์จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด อาจเกิดได้จากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง หรือมีความโน้มเอียงที่จะเกิดขึ้นหลายปัจจัยพร้อมๆกัน ดังนั้น การรู้มูลเหตุที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงขึ้นหรือต่ำลง ทำให้นักลงทุนสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนการลงทุน ซึ่งทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น