
ปัญหาโฉนดทับซ้อนเป็นหนึ่งในข้อพิพาทด้านที่ดินที่พบบ่อยและสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของที่ดินจำนวนมาก สาเหตุหลักมักเกิดจากความผิดพลาดในการรังวัดที่ดิน การออกเอกสารสิทธิซ้ำซ้อน หรือการจัดทำแผนที่ที่ไม่ถูกต้องในอดีต เมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดการอ้างสิทธิทับซ้อนกัน
กรณีโฉนดทับซ้อนส่งผลกระทบต่อเจ้าของที่ดินโดยตรง เพราะทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ รวมถึงอาจไม่สามารถซื้อขาย จำนอง หรือพัฒนาโครงการได้จนกว่าข้อพิพาทจะได้รับการแก้ไข
วิธีแก้ไขปัญหาโฉนดทับซ้อนเริ่มจากการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานที่ดิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรังวัดใหม่ หากพบว่ามีการออกโฉนดผิดพลาดจริง สำนักงานที่ดินสามารถดำเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดได้ตามกฎหมาย
ในกรณีที่คู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ อาจต้องใช้กระบวนการทางศาลเพื่อวินิจฉัยสิทธิ ซึ่งศาลจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน เช่น แผนที่รังวัดเดิม พยานบุคคล หรือเอกสารการเสียภาษีที่ดิน การดำเนินคดีลักษณะนี้มักใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง จึงควรพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยก่อน
เพื่อป้องกันปัญหาโฉนดทับซ้อน ผู้ซื้อควรตรวจสอบเอกสารสิทธิอย่างละเอียด รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่รังวัดก่อนซื้อขายทุกครั้ง การปรึกษาทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านที่ดินจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น
สรุปแล้ว ปัญหาโฉนดทับซ้อนเกิดจากความผิดพลาดในอดีตและส่งผลกระทบต่อสิทธิของเจ้าของที่ดิน การแก้ไขต้องอาศัยทั้งการตรวจสอบจากสำนักงานที่ดินและกระบวนการทางศาล ดังนั้นการตรวจสอบก่อนการซื้อขายจึงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด