การจำนองจะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้าการจำนองไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การจำนอง ย่อมตกเป็นโมฆะ
การบังคับจำนอง มี ๓ วิธี คือ
๑. การฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่จำนองออกขาย ทอดตลาด
๒. การฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้เอาทรัพย์สินที่จำนองหลุดเป็นสิทธิของ ผู้รับจำนอง
- การเอาทรัพย์สินไปประกันการชำระหนี้นั่นเอง ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่จะมาจากเงินกู้เป็นหลัก แต่ก็อาจจะเป็นหนี้อื่น ๆ ก็ได้ ต้องมีหนี้ก่อนจึงจะสามารถเกิดการจำนองได้ แต่ถ้าไม่มีหนี้ก็จำนองไม่ได้
- การกู้ยืมเงินแล้วเอาโฉนดไปให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เฉยๆ ลักษณะนี้ไม่เรียกว่าการจำนอง และไม่เข้าข่ายเป็นการจำนำด้วย (โอนลอย แปะ )
- หลังจากจดทะเบียนจำนองแล้ว ผู้จำนองมีสิทธิครอบครองและได้ดอกผลจากทรัพย์ที่จำนองอยู่ต่อไป จนกว่าผู้รับจำนองจะบอกกล่าวบังคับจำนอง
- สามารถนำทรัพย์สินที่จำนองไว้แล้วไปจำนองกับผู้อื่นในระหว่างที่สัญญาจำนองมีอายุอยู่ได้ด้วย
- ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้รับจำนองต้องฟ้องคดีต่อศาล เพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาด
- กรณีที่ลูกหนี้ไม่จ่ายดอกเบี้ยติดต่อกันถึง ๕ ปี ราคาของทรัพย์จำนองน้อยกว่าหนี้ หรือลูกหนี้ไม่ได้เอาทรัพย์สินไปจำนองไว้กับคนอื่น ผู้รับจำนองมีสิทธิขอให้ศาลพิพากษาให้ทรัพย์นั้นหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ของตนได้
- ถ้านำทรัพย์ขายทอดตลาดแล้วเงินไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้จะไม่สามารถเรียกเก็บจากลูกหนี้อีกได้ แต่เจ้าหนี้(ธนาคาร)จะมีข้อตกลงให้ชดใช้หนี้ส่วนที่เหลือ เพิ่มเติมในสัญญาได้
- เจ้าหนี้จำนองมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ
๓. ผู้จำนองมีหนังสือถึงผู้รับจำนองเอาทรัพย์สินจำนองขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้โดยไม่ฟ้องศาลบังคับ